Latest posts

อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ

684 Views 0 Liked

ดิฉันอายุกว่า 60 ปีแล้ว ชีวิตเข้าไปผูกพันกับโรงพยาบาลแทบทุกแห่งในกรุงเทพฯ เมื่อมีลูกชายและลูกคลอดออกมาเป็นเด็กไม่สมประกอบ คนเป็นแม่ขมขื่น เศร้าหมอง สิ้นหวังและเครียดมากค่ะ เมื่อต้องเลี้ยงลูกผู้พิการ ดิฉันและคุณสามีเหมือนคลำทางในความมืดมิด ไม่มีคำแนะนำดีดีจากใครสักคน เหมือนโลกทั้งโลกไม่เคยดูแลเด็กชายหน้าตาดีที่เกิดมามีสมองฝ่อและชักตลอดเวลา  ดิฉันได้เรียนรู้และเกิดสติปัญญาขึ้นมากจากการเลี้ยงลูกชายผู้ตายจากไปเมื่ออายุ 6 ปี  

 

สิ่งที่ดิฉันเรียนรู้คือ 

 

ประการที่ 1 แพทย์ไม่ใช่เทวดา ท่านไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้ จริงๆ   

 

ประการที่ 2 แพทย์แต่ละคนเก่งไม่เท่ากัน แพทย์ก็เป็นคนจึงมีอารมณ์และมีวันที่ทำงานดี วันที่ทำงานไม่ดี….

 

3. แพทย์รักษาตามอาการ และยาที่มี การวินิจฉัยอาจถูกหรือผิดก็ได้……

 

4. คนป่วยต้องสังเกตตัวเองให้ดีที่สุด แล้วรายงานแพทย์ให้ได้ละเอียด เพื่อช่วยตัวเองให้มากที่สุด อย่าเป็นคนป่วยที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วคาดหวังว่าแพทย์จะรู้ทุกอย่าง…….

 

5. แพทย์ที่ดีรักษาตามตำราค่ะ เท่านั้นจริงๆ นะคะ ถ้าวินิจฉัยผิดคือรักษาผิด เพราะฉะนั้น……

 

6. คนป่วยต้องรู้ตัวว่าทานยาแล้วรักษาแล้วไม่ได้ผล ต้องรีบหาแพทย์คนใหม่นะคะ จะกลับไปหาแพทย์คนเดิมก็ได้ในกรณีเป็นโรคหวัด แต่ถ้าเป็นโรคที่ซับซ้อนมากๆ เช่นระบบประสาท ระบบกระดูก มะเร็ง ฯลฯ ควรพบแพทย์อย่างน้อยสองคนเพื่อความรอบคอบ…..

 

7. ถ้าแพทย์แนะนำอะไรที่คุณไม่อยากทำ ไม่ต้องทำค่ะ เช่น ผ่ากระดูกสันหลัง ผ่าต้นคอ ผ่ากระดูกหัวเข่า ผ่าสมอง เจาะท้อง เจาะคอ ฯลฯ อวัยวะเหล่านี้ ต้องปรึกษาแพทย์อย่างน้อย 3 คนนะคะ ก่อนตัดสินใจ รวมถึงแพทย์ทางเลือก แนวทางการรักษาอื่นๆ เพราะผลข้างเคียงในอันตรายของการรักษาแต่ละแบบเป็นสิ่งต้องระวังมากๆ ส่วนใหญ่สัญชาติญาณของคนป่วยมักถูกต้อง เช่นยังไม่อยากผ่า กลัว เป็นต้น ถ้าการผ่าจำเป็นจริงๆ ต้องให้แพทย์หาเหตุผลมาเปลี่ยนใจคุณให้ได้ว่ามันจำเป็นจริงไหม ทางเลือกอื่นๆในศาสตร์แขนงอื่นทำแทนได้ผลอย่างไร นะคะ……

 

8. แพทย์แต่ละคนชำนาญและมีหลักการรักษาต่างกัน ไม่มีใครถูกใครผิด คุณต้องตัดสินใจเองว่าคุณชอบแบบไหน เช่นโรควัยทอง ดิฉันเลือกที่จะรักษากับแพทย์ที่ไม่ให้คนไข้ใช้ฮอร์โมน ดิฉันมีอาการวัยทองน้อยมาก นอนไม่หลับไม่เดือดร้อน ร้อนวูบเย็นวาบไม่เดือดร้อน คันหนังศีรษะ อ้อ วัยทอง จิตตกเศร้าหมอง ปรับตัวไปตามความจำเป็นค่ะ หงุดหงิดบ้างก็ทนทนกันไป ไม่มีการทานฮอร์โมน เพราะดิฉันมีแนวโน้มมีก้อนที่หน้าอกอยู่แล้ว จะเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งทำไม…….

 

9. ใครจะตายต่อให้หาหมอเก่งอย่างไรก็ตายค่ะ ใครจะหาย ป่วยหนักผะงาบผะงาบ หมอไม่ให้ความหวังเลย ยังหาย……

 

10. สิ่งมหัศจรรย์ที่สุด มีปาฏิหาริย์มากที่สุดคือร่างกายของคุณเอง ร่างกายที่คุณได้มาจากพ่อแม่ และคุณรับมาดูแล ส่วนใหญ่คนเราป่วยจากอาหารและเครื่องดื่มที่คุณกรอกใส่ปากตัวเองทุกวัน ป่วยจากสภาพแวดล้อมที่คุณเอาร่างกายคุณเข้าไปเสี่ยงกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ เจ็บจากกิจกรรมเสี่ยงๆ ที่คุณทำเช่นขับรถแข่ง เมา ฯลฯ

 

11. ดูแลร่างกายของคุณดีดีนะคะ เพื่อว่า ไม่ว่าคุณจะไปรักษากับแพทย์คนไหน คุณก็มีโอกาสหายเกินครึ่งแล้วค่ะ แพทย์รักษาตามอาการ ที่เรียนมา ส่วนการที่คุณหายป่วยนั้นเป็นเพราะร่างกายคุณจริงๆ ค่ะ เพราะแพทย์คนเดียวกัน รักษาวิธีเดียวกัน กับคนป่วยเป็นโรคเดียวกัน คนหนึ่งรอดคนหนึ่งตาย

 

ประสบการณ์สอนให้ดิฉัน...

ไม่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่แพทย์และยา แต่ประสบการณ์ก็สอนดิฉันว่าต้องเพิ่มโอกาส...

ให้ตัวเองด้วยการ เข้าใจอาการป่วยของตัวเอง 

 

หาแพทย์ที่ดีที่สุดในโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ ให้ร่วมมือกับแพทย์...

ทุกอย่าง และเมื่อไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์อีก 2คนในเรื่องเดียวกัน รวมถึงแพทย์ทางเลือกอื่นๆ

 

ความหวังควรอยู่ที่ตัวเองค่ะ เอาใจใส่ตัวเอง ดูแลตัวเอง อย่าทานยาเคมีพร่ำเพรื่อ อย่าเสี่ยงในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ 

 

ทำดีที่สุด เมื่อป่วยก็เป็นคนป่วยที่ดีที่สุดฉลาดที่สุดนะคะ   ไม่ต้องเชื่อแพทย์ทุกอย่าง แต่ตราบใดที่แพทย์สั่งอะไรที่สมเหตุผลคุณต้องทำตามค่ะ ถ้าคำสั่งใดไม่สมเหตุผลหรือคุณไม่เข้าใจว่าทำไปทำไมคุณต้องถามนะคะ ถามให้แพทย์อธิบายค่ะ

 

อย่าปล่อยทุกอย่างขึ้นอยู่กับตามยถากรรม แล้วไปโทษแพทย์ทุกเรื่อง แพทย์ท่านทำตามหน้าที่ ทำตามความสามารถ ท่านทำดีที่สุดแล้ว ท่านสุดความสามารถเท่านั้นนะคะ

 

***ดิฉันมีประสบการณ์การไปโรงพยาบาลมากมายค่ะ ปัญญาที่เกิดขึ้น ทำให้ดิฉันมีสัมพันธภาพที่ดีกับแพทย์และพยาบาลหลายๆท่าน เพราะดิฉันร่วมรับผิดชอบการป่วยของตัวของเราเอง

 

# อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอควรช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด

 

นายแพทย์ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา

Leave a comment